วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Mirage กับ E85 เจอข้อมูลดีๆเลยนำมาแชร์

 -- โดยหัวฉีดที่เลือกใช้นี้ มีขนาด cc ที่มากกว่าของเดิม มีความสามารถในการเพิ่มและลดวาล์วที่ละเอียด ทำให้ในรอบเดินเบาไม่กินน้ำมัน สตาร์ทติดง่ายไม่ต้องลาก สามารถรับสัญญาณจาก ECU ได้ดี
และยังมีความเป็นฝอยมากกว่าเดิม (ของเดิม 10รู ของใหม่ 12รู) ทำให้ ECU สามารถกำหนดค่า Lamda สำหรับน้ำมัน E85 ได้ (หัวฉีดตัวแรกที่ลองใส่ใหญ่เกินไปครับ ECU คุม Close loop ไม่ได้ A/Fหนาเกิน ถ้าจะใช้ต้องหากล่องมาคุม) 

-- ส่วนเรื่ององศาไฟ พอดีเหลือบไปเห็นตัว Knock Sensor แถวๆกรองน้ำมันเครื่อง
ก็เลยสบายใจขึ้น เพราะตัวนี้เป็นตัว Protect ความผิดพลาดของการจุดระเบิด ทำให้ ECU รับรู้และทำการปรับค่าองศาไฟใหม่โดยอัตโนมัติ (เป็นการปรับเพื่อชดเชย ซึ่งยังไม่ใช่ค่าที่ดีที่สุด)

-- เรื่องท่อทางเดินน้ำมันเชื้อเพลิง จากที่ได้ทำการรื้อดู ทางโรงงานให้ท่อในลักษณะ Teflon มา ซึ่งจะเหนือกว่าท่อยาง SAE R9 ครับ แต่ก็ควรตรวจตราเป็นประจำครับ

ตอนนี้ใช้ E85 100% แล้วครับ กับการอัฟเกรดหัวฉีดเพียงอย่างเดียว
ตอนแรกตั้งใจจะหากล่อง F-con SZ มาจูนครับ แต่พอลองกับหัวฉีดที่เหมาะสมแล้ว เป็นที่น่าพอใจครับ เพราะผมตั้งใจแค่จะเอามาจูน E85 ใช้งานแค่นั้น ไม่ได้หวังเรื่องความแรง
ECU เดิมปรับตัวได้ ขับขี่เหมือนเดิม อัตราเร่งช่วง 60-100 มาดีกว่าเดิม (Open Loop ไฟ Eco ดับ) ผมก็คงไม่ต้องซื้อกล่อง F-con มาพ่วงแล้วครับ

คราวนี้ก็คงเป็นการขับยาวๆแล้วครับ ดูอัตราการบริโภค (ซึ่งมันกินกว่าเดิมอยู่แล้ว แต่ก็ต้องดูจุดคุ้มของราคาน้ำมัน) ดูผลยาวๆ แต่ในใจก็รู้อยู่แล้วครับว่ามันไม่เป็นอะไร
ถ้าเราเข้าใจในทฤษฎี อย่าเพิ่งไปกลัวครับ ไม่เข้าใจสอบถามได้นะครับยินดีให้คำปรึกษา

เดี๋ยวจะมาอัฟเดตเป็นระยะๆครับ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ปล.เติมเต็มถัง 600 บาทนิดๆ


-------------------------------------

หลังจากที่เปลี่ยนหัวฉีด ตอนนี้ผมได้เติม E85 ไปแล้ว 1 ถังครึ่งครับ

-โดยเดิมทีผมใช้ E20 อยู่ครับแล้วผมก็วิ่งจนมันใกล้จะหมดถังเลยครับ
-จากนั้นผมก็เติม E85 เข้าไปครึ่งถัง (300 บาท) แล้วก็ใช้งานไปตามปกติจนน้ำมันในถังเหลืออยู่ 1 ขีดครับ เป็นการเติมเพื่อล้างถังครับให้เหลือ E85 เพียวๆ
-จากนั้นก็เติม E85 เต็มถังเลยครับ (580 บาท) และจะเริ่มบันทึกอัตราการบริโภคให้ดูนะครับว่า 1 ถังวิ่งได้กี่ กม. ปัจจุบันลดลงไป 3 ขีดแล้ว

จากการสังเกต อัตราบริโภค Km/L บนหน้าจอ

- ขับปกติ ความเร็วเฉลี่ยอยู่แถว 80-100 km/hr จะอยู่ที่ 17 Km/L (ขับในเมืองมีรถติด) ถ้าขับแบบลอยๆเรื่อยๆ จะอยู่ที่ 19 Km/L

-แต่ถ้าขับซิ่ง เกิน 120 km/hr จะอยู่ที่ 15 Km/L (เมื่อวานเหยียบไป 160 Km/hr)

-อัตราเร่งช่วง 60 km/hr ขึ้นไปดีมากครับดึงชัดเจน ส่วนช่วงต้นๆผมว่าปกตินะมันแยกไม่ออกครับแต่ก็ไม่ได้อืดแน่นอน (ช่วงต้นผมลองขับแบบไฟ ECO ขึ้นนะ เพราะถ้าเหยียบมันก็พุ่งอยู่แล้วครับ) ความเร็วช่วงใช้งานที่ 60-120 km/hr ขับสนุกครับ เร่งมัน

-การสตาร์ทรถเป็นปกติครับ ไม่ต้องลากยาว รอบเดินเบาปกติครับ (ออกไปทางนิ่มเงียบกว่าเดิม) เปิดแอร์รอบตัดต่อปกติครับ

เดี๋ยวหมดถังนี้จะมารายงานผลต่อครับ

------------------------------------

วันนี้เติมมา 1 ถังครับผม โดยน้ำมันยังเหลืออยู่ 2 ขีดครับ แต่ต้องเติมก่อนเดี๋ยวพลาด ผ่านปั๊มพอดีเลยแวะเติมก่อน

เส้นทางหลักที่ทดสอบคือ ลาดกระบัง-สุวรรณภูมิ-บางนา-เทพารักษ์-คลองขุด-แพรกษา-บางปู

ก็จะมีทั้งขับเรื่อยๆ, เร็วๆ, รถติด(โ-ค-ร-ต จะติดตรงแถวคลองขุด-บางปู)

ความเร็วโดยเฉลี่ยก็แถวช่วง 70-100 km/hr ใช้งานทุกวัน
รถเกียร์ Auto ล้อขอบ 15 กว้าง 7" ยาง 185-55-r15
นั่ง 2 คน รวมประมาณ 130 กก.
เครื่องยนต์ทำการเปลี่ยนหัวฉีดจากเดิม เป็นหัวฉีดของ 350Z

เติมเต็มถังจนหัวจ่ายตัด ได้ 24.60 ลิตร 533.3 บาท (E85 ลิตรละ 21.68 บาท)
ระยะทางที่บันทึกจาก Trip A ได้ 332.8 กม.

คิดเป็นอัตราบริโภคได้ 332.8/24.6 = 13.53 km/L
คิดเป็นอัตราค่าใช้จ่ายต่อ กม. ได้ 21.68/13.53 = 1.6 บาท/กม.

เรื่องอัตราเร่งดีมากครับ ดีกว่าเดิมเยอะ (เล่นกับรถ 1500 auto สบายครับ) 

เดี๋ยวใกล้หมดถังที่ 2 จะมารายงานต่อครับ


-------------------------------------

วันนี้เติมเป็นถังที่ 2 ครับ โดยน้ำมันยังเหลืออยู่ 1 ขีดครับ 

ถังนี้เน้นการขับแบบจัดเต็มครับ ซิ่งซะเป็นส่วนใหญ่ครับ (วงแหวนบางปะอิน , Motorway)

อยากจะบอกว่าขับๆอยู่โดนรังแกเยอะมาก เลยจัดให้
เล่นกับ Vios Auto (แต่งเหมือนจะซิ่ง) และ Jazz GD Auto (เหมือนจะซิ่งเช่นกัน)
ผลคือมิราจกินครับ (อึ้งไปเลยล่ะซิ จี้ดีนัก) ความเร็วที่มองไมล์ก็แถวๆ 160km/hr
ถ้าทางมันยาวกว่านี้ผมก็คงโดนเหมือนกันครับเพราะ 160 km/hr ความเร็วก็เริ่มนิ่งแล้วครับ อาศัยมุดเอา

เติมเต็มถังจนหัวจ่ายตัด ได้ 27.24 ลิตร 590.6 บาท (E85 ลิตรละ 21.68 บาท)
ระยะทางที่บันทึกจาก Trip A ได้ 327.8 กม. 

คิดเป็นอัตราบริโภคได้ 327.8/27.24 = 12.03 km/L
คิดเป็นอัตราค่าใช้จ่ายต่อ กม. ได้ 21.68/12.03 = 1.8 บาท/กม. (ไงล่ะ ซ่าดีนัก)

จากผลของความซ่าก็อย่างที่เห็นครับ แต่ก็ถือว่าคุ้มกับความแรงครับ
อาการของเครื่องยนต์ปกติครับ นิ่งๆไม่มีอาการใดๆเลย Start ติดง่าย (เดี๋ยวสักพักจะถอดหัวเทียนมาตรวจสอบการเผาไหม้ครับ)


---------------------------------------
เครดิต

AWR 
http://board.eg3d-club.com/index.php/topic,48314.0.html

1 ความคิดเห็น:

  1. เปลี่ยนหัวเทียนแล้วเติมน้ำทัน แก๊ส 91 มีผลเป็นอย่างไรบ้างครับ เคยลองไหมครับ

    ตอบลบ