วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เปลี่ยนหัวฉีดแล้วอยากเติมน้ำมัน91 95 E20 E85 อันไหนก็ใช้ได้ใช่หรือไม่

สามารถเติมใช้ได้หมด เพราะหัวฉีดอยู่ในช่วงที่ ECU ควบคุมได้ครับ
ส่วนใหญ่คนที่เปลี่ยนหัวฉีดจะหนีไปใช้ E20 E85 เป็นหลักครับ หวังผลความแรง และประหยัดเงิน ในกรณีถ้าท่านเจ้าของรถยังคิดจะกลับมาใช้ 91 ,95 แนะนำไม่ต้องเปลี่ยนหรอกครับเปลืองตังค์เปล่าๆ แต่ถ้าใช้ E85 เป็นหลักและเกิดกรณีหาปั๊มเติมไม่ได้สามารถเติมแบบชั่วครั้งชั่วคราวได้ครับ พอเจอปั๊ม E85 ก็เติมใส่ซะ จบครับ

อย่างตัวผมก็เติม E85 เป็นหลักเลยครับ

แนะนำนะครับ ไม่ควรเติมน้ำมันสลับไปมาหรือผสมนะครับ ไม่ว่าจะน้ำมันชนิดอะไร แม้ในทางทฤษฎีจะทำได้ แต่ในทางปฏิบัติจะไปมีผลเรื่องอัตราส่วนผสมและองศาไฟที่ ECU ต้องปรับเปลี่ยนบ่อยครั้ง ทำให้การประมวลผลผิดพลาด และเกิดความเสียหายได้



เพิ่มเติมเป็นความรู้นะครับ
การประมวลผลสำหรับ ECU รถรุ่นใหม่ๆที่สามารถใช้เชื้อเพลิงได้หลายๆชนิดนั้น
ทำการประมาณผลแบบเข้าค่า Lambda=1 ครับ เพราะเชื้อเพลิงแต่ละชนิดจะมีอัตราส่วนผสมอากาศต่อน้ำมัน (A/F Ratio) ที่ไม่เท่ากันครับ ดังนั้นถ้าเราเปลี่ยนชนิดน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่บ่อยๆ ECU ก็จะทำการตรวจสอบและประมวลผลให้เข้าค่า Lambda=1 ใหม่ครับ

Lambda =1  หมายถึง ส่วนผสมพอดี
Lambda >1  หมายถึง ส่วนผสมบาง
Lambda <1 nbsp="" span="">

ซึ่งน้ำมันแต่ละชนิดจะมีอัตราส่วนผสมโดยประมาณดังนี้ครับ

เบนซิน 91,95,E10 ค่า Lambda=1 จะมีค่า A/F ที่ 14:1
E20                   ค่า Lambda=1 จะมีค่า A/F ที่ 12:1
E85                   ค่า Lambda=1 จะมีค่า A/F ที่   9:1
LPG                   ค่า Lambda=1 จะมีค่า A/F ที่  15:1

ดังนั้นถ้า ECU ไม่สามารถดึงค่า Lambda ให้อยู่ตามที่กำหนดได้ ไฟ Engine ก็จะโชว์
เป็นการเตือนถึงสถานะการเผาไหม้ที่ผิดปกติ


--------------------------------------

น้ำมัน E85 ต้องการปริมาณน้ำมันที่หนากว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ
ในกรณีที่ท่านเติม E85 ผสมกับน้ำมันชนิดอื่นที่มีอัตราส่วน A/F บางกว่า จึงทำให้สามารถใช้งานได้เพราะ ECU และระบบหัวฉีด ยังเพียงพอที่จะควบคุมให้ค่า Lambda=1 ได้   แต่พอเติม E85 เพียวๆ ECU จะทำการประมวลผลใหม่เพื่อดึงค่า Lambda ให้เท่ากับ 1 จึงสั่งให้หัวฉีดยกมากขึ้น มากขึ้นเท่าที่จะทำได้ จนสุดท้ายเมื่อทำไม่ได้ก็จะทำการแจ้งเตือนเป็นไฟ Engine โชว์

ส่วนท่านที่ใช้ LPG แล้วไฟไม่โชว์ ก็เพราะโดยลักษณะของ LPG มีอัตราส่วนผสมพอดีที่บางกว่าน้ำมันครับ  แต่การที่หลายๆท่านบอกว่าใช้แก๊สแล้วเครื่องร้อน สาเหตุหลักมาจากการลามไฟที่ช้าของ LPG แล้วไม่ทำการปรับองศาไฟให้แก่ขึ้น จึงทำให้การสันดาปอยู่ในสถานะไฟอ่อน (จุดระเบิดล้าช้า) เกิดเป็นความร้อนที่ไม่เกิดงานสะสมในห้องเผาไหม้ ทำให้ลูกสูบละลายได้นะครับ ซึ่ง E85 ก็มีลักษณะการลามไฟล้าช้าเหมือน LPG ครับ
ถ้าใครรู้จุดการปรับจูน LPG จริงๆบอกได้เลยว่าแรงมากครับ แต่เท่าที่จูนมายังไงก็ยังสู้ E85 ไม่ได้ครับ

เรื่ององศาไฟสำหรับมิราจก็ไม่ต้องกังวลครับ เพราะมี Knock Sensor เป็นตัวควบคุมองศาไฟอยู่ครับ แต่ก็เป็นเพียงแค่ปรับชดเชยครับ ยังไม่ใช่จุดที่ดีที่สุด แต่ถ้าเป็นรถECUรุ่นเก่าต้องทำการ Remap ตารางไฟใหม่หมดเลยครับในการปรับใช้น้ำมัน E85 เพื่อความแรง

ส่วนหัวฉีดที่ผมเปลี่ยน ไม่ใช่เพราะว่ามันเป็นหัวฉีดเฉพาะสำหรับน้ำมัน E85 นะครับ หัวฉีดทุกตัวที่เป็นรุ่นระบบวาล์ว (ไม่ใช่หัวเข็ม) จะรองรับน้ำมันทุกรูปแบบครับ เพียงแต่ว่าต้องคำนวณปริมาณการฉีดใหม่ เพื่อให้ป้อนน้ำมันเพียงพอต่อการสันดาปครับ ให้พลังงานออกมามากที่สุด (แรงม้า)  ในเมื่อผมเปลี่ยนหัวฉีดให้ cc มากขึ้นและอยู่ในช่วงการใช้งาน ก็ไม่จำเป็นต้องปรับแต่งอะไรครับ เพราะ ECU จะประมวลผลของมันเอง  แต่ถ้าเมื่อไหร่จับ Mirage มา Set Turbo ถึงคราวนี้ท่านจะต้องเปลี่ยนหัวฉีดให้ cc มากกว่าเดิมหลายเท่าตัวซึ่งมันจะเกินการคุมควบของ ECU เดิมทั้งในเรื่องน้ำมัน,อากาศ,องศาไฟ จึงต้องหากล่อง PIGGY BACK หรือ กล่อง Stand Alone มาควบคุมการสันดาปใหม่ทั้งหมดครับ 
หลายท่านจะรู้จักในนาม จำพวก E-manage , F-Con Vpro , MOTEC , AEM , WOLF ฯลฯ

บอกได้เลยครับ ถ้าแรงม้าต้นสังกัดเครมมา 78 แรงม้า (ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าใช้เชื้อเพลิงอะไร)
และถ้าท่านนำไปเติม E85 โดยไม่ทำการเพิ่มปริมาณเชื้อเพลิงตามอัตราส่วนผสมที่ควรจะเป็น แรงม้าท่านจะตกทันที 20% โดยประมาณครับ วิ่งได้ครับผมไม่เถียงแต่ไม่แรงครับ

ฉะนั้นที่ผมเปลี่ยนหัวฉีด ผมคำนวณมานะครับ ไม่ใช่ว่านึกจะใส่ก็ใส่ ไม่อย่างนั้นไฟ Engine ก็คงโชว์ตั้งแต่แรกแล้วครับ

ส่วนท่านที่ Start ติดยากก็เป็นเพราะหัวฉีดสั่งจ่ายน้ำมัน E85 ไม่พอครับ มันเลยจุดไม่ติด จึงต้องลากเพื่อให้น้ำมันลงจนจุดไฟติดครับ

เป็นเพราะผมได้มีโอกาสมีมิราจไว้ในครอบครอง จึงได้ทดสอบทดลองครับ
สอบถามได้นะครับตอบได้ก็จะตอบแชร์ๆกันไป อยากให้เข้าใจในสิ่งที่ถูกต้องครับ

และก็เข้าใจครับว่าทุกท่านที่เลือกใช้มิราจก็เน้นใช้งานแบบประหยัด เป็นการลดต้นทุนในชีวิตประจำวัน ก็ไม่อยากให้เสียตังค์เยอะครับ และก็ไม่อยากให้เข้าใจผิดจนกลายเป็นการหลอกลวงครับ ศึกษาข้อมูลเยอะๆครับ

ส่วนเรื่องผลระยะยาว ให้สังเกตที่ท่อยางระบบเชื้อเพลิงครับ แต่ที่ผมดู มิราจใช้ท่อยางผสม Teflon ครับ ซึ่งทน E85 มากกว่าท่อยาง R9 

ส่วนของเครื่องยนต์ไม่มีผลครับ เพียงแค่ปรับจูนให้ถูกตามอัตราส่วนที่ผมบอกข้างต้นครับ สำหรับท่านที่ใช้ E85 kit ก็ระมัดระวังในการปรับจูนนะครับเพราะท่านไม่สามารถรู้ได้ว่าที่ท่านปรับนั้นเป็นอัตราส่วนที่เหมาะสมพอดีหรือเปล่า ซึ่งถ้าปรับไม่ถูกก็เสี่ยงมากครับ

Credit: AWR
http://board.eg3d-club.com/index.php/topic,48314.0.html

Mirage กับ E85 เจอข้อมูลดีๆเลยนำมาแชร์

 -- โดยหัวฉีดที่เลือกใช้นี้ มีขนาด cc ที่มากกว่าของเดิม มีความสามารถในการเพิ่มและลดวาล์วที่ละเอียด ทำให้ในรอบเดินเบาไม่กินน้ำมัน สตาร์ทติดง่ายไม่ต้องลาก สามารถรับสัญญาณจาก ECU ได้ดี
และยังมีความเป็นฝอยมากกว่าเดิม (ของเดิม 10รู ของใหม่ 12รู) ทำให้ ECU สามารถกำหนดค่า Lamda สำหรับน้ำมัน E85 ได้ (หัวฉีดตัวแรกที่ลองใส่ใหญ่เกินไปครับ ECU คุม Close loop ไม่ได้ A/Fหนาเกิน ถ้าจะใช้ต้องหากล่องมาคุม) 

-- ส่วนเรื่ององศาไฟ พอดีเหลือบไปเห็นตัว Knock Sensor แถวๆกรองน้ำมันเครื่อง
ก็เลยสบายใจขึ้น เพราะตัวนี้เป็นตัว Protect ความผิดพลาดของการจุดระเบิด ทำให้ ECU รับรู้และทำการปรับค่าองศาไฟใหม่โดยอัตโนมัติ (เป็นการปรับเพื่อชดเชย ซึ่งยังไม่ใช่ค่าที่ดีที่สุด)

-- เรื่องท่อทางเดินน้ำมันเชื้อเพลิง จากที่ได้ทำการรื้อดู ทางโรงงานให้ท่อในลักษณะ Teflon มา ซึ่งจะเหนือกว่าท่อยาง SAE R9 ครับ แต่ก็ควรตรวจตราเป็นประจำครับ

ตอนนี้ใช้ E85 100% แล้วครับ กับการอัฟเกรดหัวฉีดเพียงอย่างเดียว
ตอนแรกตั้งใจจะหากล่อง F-con SZ มาจูนครับ แต่พอลองกับหัวฉีดที่เหมาะสมแล้ว เป็นที่น่าพอใจครับ เพราะผมตั้งใจแค่จะเอามาจูน E85 ใช้งานแค่นั้น ไม่ได้หวังเรื่องความแรง
ECU เดิมปรับตัวได้ ขับขี่เหมือนเดิม อัตราเร่งช่วง 60-100 มาดีกว่าเดิม (Open Loop ไฟ Eco ดับ) ผมก็คงไม่ต้องซื้อกล่อง F-con มาพ่วงแล้วครับ

คราวนี้ก็คงเป็นการขับยาวๆแล้วครับ ดูอัตราการบริโภค (ซึ่งมันกินกว่าเดิมอยู่แล้ว แต่ก็ต้องดูจุดคุ้มของราคาน้ำมัน) ดูผลยาวๆ แต่ในใจก็รู้อยู่แล้วครับว่ามันไม่เป็นอะไร
ถ้าเราเข้าใจในทฤษฎี อย่าเพิ่งไปกลัวครับ ไม่เข้าใจสอบถามได้นะครับยินดีให้คำปรึกษา

เดี๋ยวจะมาอัฟเดตเป็นระยะๆครับ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ปล.เติมเต็มถัง 600 บาทนิดๆ


-------------------------------------

หลังจากที่เปลี่ยนหัวฉีด ตอนนี้ผมได้เติม E85 ไปแล้ว 1 ถังครึ่งครับ

-โดยเดิมทีผมใช้ E20 อยู่ครับแล้วผมก็วิ่งจนมันใกล้จะหมดถังเลยครับ
-จากนั้นผมก็เติม E85 เข้าไปครึ่งถัง (300 บาท) แล้วก็ใช้งานไปตามปกติจนน้ำมันในถังเหลืออยู่ 1 ขีดครับ เป็นการเติมเพื่อล้างถังครับให้เหลือ E85 เพียวๆ
-จากนั้นก็เติม E85 เต็มถังเลยครับ (580 บาท) และจะเริ่มบันทึกอัตราการบริโภคให้ดูนะครับว่า 1 ถังวิ่งได้กี่ กม. ปัจจุบันลดลงไป 3 ขีดแล้ว

จากการสังเกต อัตราบริโภค Km/L บนหน้าจอ

- ขับปกติ ความเร็วเฉลี่ยอยู่แถว 80-100 km/hr จะอยู่ที่ 17 Km/L (ขับในเมืองมีรถติด) ถ้าขับแบบลอยๆเรื่อยๆ จะอยู่ที่ 19 Km/L

-แต่ถ้าขับซิ่ง เกิน 120 km/hr จะอยู่ที่ 15 Km/L (เมื่อวานเหยียบไป 160 Km/hr)

-อัตราเร่งช่วง 60 km/hr ขึ้นไปดีมากครับดึงชัดเจน ส่วนช่วงต้นๆผมว่าปกตินะมันแยกไม่ออกครับแต่ก็ไม่ได้อืดแน่นอน (ช่วงต้นผมลองขับแบบไฟ ECO ขึ้นนะ เพราะถ้าเหยียบมันก็พุ่งอยู่แล้วครับ) ความเร็วช่วงใช้งานที่ 60-120 km/hr ขับสนุกครับ เร่งมัน

-การสตาร์ทรถเป็นปกติครับ ไม่ต้องลากยาว รอบเดินเบาปกติครับ (ออกไปทางนิ่มเงียบกว่าเดิม) เปิดแอร์รอบตัดต่อปกติครับ

เดี๋ยวหมดถังนี้จะมารายงานผลต่อครับ

------------------------------------

วันนี้เติมมา 1 ถังครับผม โดยน้ำมันยังเหลืออยู่ 2 ขีดครับ แต่ต้องเติมก่อนเดี๋ยวพลาด ผ่านปั๊มพอดีเลยแวะเติมก่อน

เส้นทางหลักที่ทดสอบคือ ลาดกระบัง-สุวรรณภูมิ-บางนา-เทพารักษ์-คลองขุด-แพรกษา-บางปู

ก็จะมีทั้งขับเรื่อยๆ, เร็วๆ, รถติด(โ-ค-ร-ต จะติดตรงแถวคลองขุด-บางปู)

ความเร็วโดยเฉลี่ยก็แถวช่วง 70-100 km/hr ใช้งานทุกวัน
รถเกียร์ Auto ล้อขอบ 15 กว้าง 7" ยาง 185-55-r15
นั่ง 2 คน รวมประมาณ 130 กก.
เครื่องยนต์ทำการเปลี่ยนหัวฉีดจากเดิม เป็นหัวฉีดของ 350Z

เติมเต็มถังจนหัวจ่ายตัด ได้ 24.60 ลิตร 533.3 บาท (E85 ลิตรละ 21.68 บาท)
ระยะทางที่บันทึกจาก Trip A ได้ 332.8 กม.

คิดเป็นอัตราบริโภคได้ 332.8/24.6 = 13.53 km/L
คิดเป็นอัตราค่าใช้จ่ายต่อ กม. ได้ 21.68/13.53 = 1.6 บาท/กม.

เรื่องอัตราเร่งดีมากครับ ดีกว่าเดิมเยอะ (เล่นกับรถ 1500 auto สบายครับ) 

เดี๋ยวใกล้หมดถังที่ 2 จะมารายงานต่อครับ


-------------------------------------

วันนี้เติมเป็นถังที่ 2 ครับ โดยน้ำมันยังเหลืออยู่ 1 ขีดครับ 

ถังนี้เน้นการขับแบบจัดเต็มครับ ซิ่งซะเป็นส่วนใหญ่ครับ (วงแหวนบางปะอิน , Motorway)

อยากจะบอกว่าขับๆอยู่โดนรังแกเยอะมาก เลยจัดให้
เล่นกับ Vios Auto (แต่งเหมือนจะซิ่ง) และ Jazz GD Auto (เหมือนจะซิ่งเช่นกัน)
ผลคือมิราจกินครับ (อึ้งไปเลยล่ะซิ จี้ดีนัก) ความเร็วที่มองไมล์ก็แถวๆ 160km/hr
ถ้าทางมันยาวกว่านี้ผมก็คงโดนเหมือนกันครับเพราะ 160 km/hr ความเร็วก็เริ่มนิ่งแล้วครับ อาศัยมุดเอา

เติมเต็มถังจนหัวจ่ายตัด ได้ 27.24 ลิตร 590.6 บาท (E85 ลิตรละ 21.68 บาท)
ระยะทางที่บันทึกจาก Trip A ได้ 327.8 กม. 

คิดเป็นอัตราบริโภคได้ 327.8/27.24 = 12.03 km/L
คิดเป็นอัตราค่าใช้จ่ายต่อ กม. ได้ 21.68/12.03 = 1.8 บาท/กม. (ไงล่ะ ซ่าดีนัก)

จากผลของความซ่าก็อย่างที่เห็นครับ แต่ก็ถือว่าคุ้มกับความแรงครับ
อาการของเครื่องยนต์ปกติครับ นิ่งๆไม่มีอาการใดๆเลย Start ติดง่าย (เดี๋ยวสักพักจะถอดหัวเทียนมาตรวจสอบการเผาไหม้ครับ)


---------------------------------------
เครดิต

AWR 
http://board.eg3d-club.com/index.php/topic,48314.0.html